fbpx

ลามิเนต คืออะไร มีความทนทานมากน้อยขนาดไหน

ลามิเนต คืออะไร มีความทนทานมากน้อยขนาดไหน

สำหรับ พื้นไม้ลามิเนต ที่ถือว่าเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนไม้พื้นธรรมชาติ ที่ให้คุณสมบัติการใช้งานที่เยี่ยม และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้ว มักได้รับความนิยมนำเอามาเลือกใช้ปูพื้นบ้านซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะด้วยความสวยงามของลวดลายไม้ ให้ความสัมผัสเสมือนไม้จริงในราคาที่ไม่แพง ที่สามารถติดตั้งได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนที่ซับซ่อน แถมยังมีความทนทาน ที่ทนต่อการขีดข่วนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

โดยที่ พื้นไม้ลามิเนต ก็ยังสามารถนำเอามาใช้งานสำหรับ พื้นห้องนอน พื้นห้องนั่งเล่น พื้นห้องรับประทานอาหาร และรวมไปถึงการนำเอามาใช้งานกับพื้นของอาคาร สำนักงาน ได้อีกด้วย โดยที่วัสดุดังกล่าวนั้น ทีความโดดเด่นในเรื่องความสวยงาม ที่สามารถสร้างความโดดเด่นที่ลงตัวให้กับพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ แต่ ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง

นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ที่ควรรู้ก่อนเลือกพื้นไม้ลามิเนต

สำหรับการเลือกซื้อพื้นไม้ลามิเนต ที่จะทำให้สามารถเลือกใช้งานไม้ที่มีคุณภาพมากที่สุดได้นั้น จะมีวิธีที่สามารถดู และสังเกตได้ง่ายๆ โดยสามารถสังเกตจากสัญลักษณ์การใช้งานข้างกล่อง อาจจะมีสัญลักษณ์ใดสัญลักษณ์หนึ่ง ดังนี้

โดยสัญลักษณ์ดังกล่าว มีความหมายคือ

ตัวเลขหลักแรก เป็นตัวกำหนดสถานที่ใช้งาน

  • เลข 2 หมายถึง ใช้งานในบ้าน Domestic Area
  • เลข 3 หมายถึงใช้งานในที่สาธารณะ Commercial Area

ตัวเลขหลักที่สอง เป็นการกำหนดความหนักเบาในการใช้งาน

  • เลข 1 หมายถึง ใช้งานน้อย
  • เลข 2 หมายถึง ใช้งานทั่วไป
  • เลข 3 หมายถึง ใช้งานหนัก

เมื่อนำตัวเลขทั้งสองมาประกอบกัน จะสามารถใช้เป็นหลักในการเลือกสินค้าสำหรับใช้งานในแต่ละสถานที่ได้

  • 21 : ที่พักอาศัย, เดินผ่านน้อย : เหมาะกับห้องนอน
  • 22 : ที่พักอาศัย, การใช้งานทั่วไป : เหมาะกับห้องรับแขก, ห้องนั่งเล่นหรือห้องทานอาหาร
  • 23 : ที่พักอาศัย, การใช้งานหนัก : ใช้ได้ทุกที่ในบ้าน (ที่มีปริมาณความชื้นไม่มาก)
  • 31 : สำหรับพื้นที่สาธารณะ  การใช้งานไม่มาก : เหมาะจะปูในบ้าน,ห้องนอนในโรงแรมหรือ Office ขนาดเล็ก
  • 32 : สำหรับพื้นที่สาธารณะ การใช้งานทั่วไป : สำนักงาน,ภัตตาคาร,ร้านเสริมสวย,คาเฟ่ Lobby
  • 33 : สำหรับพื้นที่สาธารณะ การใช้งานหนัก : อาคารสาธารณะ ,ห้างสรรพสินค้า ยิม

สำหรับสัญลักษณ์ต่างๆ ที่สามารถสังเกตได้ข้างต้นนั้น จะต้องอยู่ที่ผู้ผลิต ที่จะต้องผ่านมาตรฐานการผลิต EN13329 ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตของทางยุโรป และจะเป็นวิธีที่เป็นมาตรฐานที่นำเอามาใช้ผลิตพื้นไม้ลามิเนต ที่ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

ตามมาตรฐานนี้ ค่าที่ควรพิจารณา คือ  

สำหรับค่าการทนการขูดขีด (Resistance to Abrasion) ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการแสดง ค่าเป็น AC1 – AC5 (ยิ่งมากยิ่งดี) ซึ่งจะแสดงถึงความทนทานต่อรอยขูดขีดของพื้นไม้ลามิเนต   โดยพื้นไม้ลามิเนตที่ดี ควรมีค่าไม่น้อยกว่า AC3

สำหรับค่าการพองของ (Thickness Swelling) ซึ่งโดยปกติแล้วจะแสดงค่าเป็น % โดยปกติตามมาตรฐานที่เหมาะแก่การใช้งานนั้นควรที่จะมีค่าไม่เกิน 18% - 20% ค่าดังกล่าวจะเป็นตัวชี้ว่าเมื่อไม้พื้นลามิเนตถูกน้ำจะมีการขยายตัวเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นถ้าหากยิ่งตัวเลขที่น้อย ก็จะยิ่งดี และเหมาะสำหรับการใช้งาน เพราะจะหมายถึงการขยายตัวของไม้พื้นจะส่งผลให้เกิดปัญหาของพื้นไม้ลามิเนต ไม่ว่าจะเป็นความเรียบของรอยต่อของพื้นไม้ หรือ การโก่งแอ่นจากการยันขอบผนังของพื้นไม้ลามิเนต

โดยที่ผู้ผลิตพื้นไม้ลามิเนตทุกรายนั้น จะต้องถูกกำหนดให้ต้องทำตามมาตรฐานในทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ตัวลูกค้ามากที่สุด โดยที่ลูกค้าจำเป็นอย่างมากที่จะต้องสังเกตุสัญลักษณ์การใช้งาน ก่อนจะซื้อพื้นไม้ลามิเนต เพื่อให้ได้พื้นไม้ลามิเนตที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งจะทำให้พื้นไม้ลามิเนตอยู่คู่กับบ้านคุณไปนานแสนนาน

ติดตั้งพื้นลามิเนตดีไหม และคุ้มค่าแค่ไหน

สำหรับใครที่กำลังจะเลือกใช้งาน พื้นลามิเนตนั้น ก่อนอื่น สิ่งที่จำเป็นอย่างมากนั่นก็คือจะต้องมองหาข้อดีของพื้นลามิเนตเพื่อจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยที่จุดเด่น และช้อดี ที่ทำให้คนนิยมหันมาเลือกใช้งาน พื้นลามิเนต นั่นก็คือ ในเรื่องของความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน สามารถป้องกันรอยขูดขีดได้เป็นอย่างดี ในระดับที่มากที่สุด และด้วยความหนาของพื้นลามิเนตทำให้เมื่อถูกเลือกใช้งานแล้ว เวลาเดินบนพื้นลามิเนตจะให้ความรู้สึกที่แน่น สัมผัสของความอุ่น นุ่มสบาย ไม่เย็นเท้า

ความคุ้มค่าในการติดตั้งพื้น ลามิเนต

อย่างทุกคนเข้าใจว่า การเลือกใช้พื้นลามิเนตนั้น ก็เป็นเพราะค่าใช้จ่าย ที่จะสามารถเห็นผลได้ชัดเจนว่าประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเทียบเท่ากับการใช้งานจริง เพราะเนื่องจากวิธีการผลิตพื้นลามิเนต ผลิตจากผงไม้อัดด้วยความร้อน และแรงดันสูง ความหนาแน่นสูง (HDF) ทำให้แผ่นไม้มีเสถียรภาพสูง ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนทำให้แผ่นไม้มีความแข็งแรงทนทาน ทนรอย และถ้าเมื่อนำทุกอย่างมาคำนวณอย่างละเอียดแล้ว จะสามารถพบได้ว่า การได้พื้นบ้านใหม่ที่สวยงามกับในราคาที่จ่ายถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมากนั่นเอง

Scroll to Top