fbpx

จ้างอินทีเรียต้องจ่ายอะไรบ้าง

จากประสบการณ์ที่ผ่านเราพบว่าลูกค้าหลายท่านต้องเผชิญกับปัญหาและความกังวลจากการเลือกใช้บริการรับจ้างผู้รับเหมาบิ้วอินตกแต่งภายใน โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่ต้องจ่ายว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ อยู่ในงบประมาณหรือไม่

บทความนี้

จึงอยากร่วมแชร์เพื่อให้ลูกค้ามีความเข้าใจรายละเอียดงานว่าขั้นตอนการสื่อสารระหว่างเจ้าของบ้านกับบริษัทผู้รับเหมาตกแต่งภายในควรจะมีอะไรมีส่วนไหนบ้างที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการทำงาน มาก น้อย แตกต่างกัน รวมไปถึงขั้นตอนการเสนอราคาและการชำระเงิน เพื่อให้ลูกค้ามีความกระจ่างและอุ่นใจในการเลือกใช้บริการหาผู้รับเหมาบิ้วอินเพื่อให้งานออกมาเสร็จสมบูรณ์หากคุณกำลังมองหาผู้รับเหมาตกแต่งภายในควรพิจารณา ดังนี้

real_work_17

การคิดค่าบริการและค่าจ้างอินทีเรีย

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่างานอินทีเรียถือเป็นศิลปะแขนงนึง ไม่ได้มีการกำหนดคามาตรฐานได้เหมือนกับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ยากต่อการเปรียบเทียบราคาเนื่องจากความแตกต่างขึ้นกับหลายปัจจัย ได้แก่ ฝีมือทักษะควาทสามารถ ชื่อเสียง สไตล์การออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่ง ความมากน้อยของปริมาณงานตกแต่ง ขนาดของโครงการ ระยะทางการเดินทาง เป็นต้น

ดังนั้นการประเมินราคาค่าออกแบบ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ สามารถแบ่งตามโครงสร้างของงานบริการและงานผลิต ได้เป็นส่วนหลัก ดังนี้   ดูโครงสร้างของงานบริการและงานผลิตทั้ง 5 ส่วน

ควรจ่ายค่าจ้างตอนไหนแบ่งจ่ายอย่างไร

หากผู้ว่าจ้างตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้วขั้นตอนสำคัญนั่นคือการเซ็นต์สัญญาว่าจ้างอย่างป็นลายลักษณ์อักษร ตรงนี้จะเรียว่า “เอกสารสัญญาก่อสร้าง ในเอกสารสัญญาก่อสร้างเพื่อเริ่มงานก่อสร้างของทาง 168 ทูบีดีไซน์ มีรายละเอียดการชำระเงินแบ่งเป็น งวดดังนี้

 ○  งวดที่ 1: 40 %
เมื่อ วันที่เซ็นสัญญา ซึ่งถือว่าเป็นการตกลงว่าจ้าง และจะเริ่มงานก่อสร้างทันทีตามรายละเอียดข้อความเนื้อหาที่ระบุในสัญญา

 ○  งวดที่ 2: 30 %
เมื่อ ปริมาณงานมีความคืบหน้าประมาณ 50% -60% ตรงนี้จะเริ่มเห็นงานอย่างเป็นรูปเป็นร่างจนถึงขั้นเริ่มประกอบติดตั้งงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินในหลายๆส่วนแล้ว

 ○  งวดที่ 3: 20 %
เมื่อ หลังจากประกอบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ครบทั้งหมด

 ○  งวดที่ 4: 5 %
เมื่อ หลังจากเก็บรายละเอียดงาน ทำความสะอาด

 ○  งวดที่ 5: 5 %
ส่งมอบงานและมีการตรวจรับงานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

อัตราการคิดค่าบริการ

ปกติแล้วงานอินทีเรียไม่มีมาตรฐานการคิดราคาที่ชัดเจน ต้องมีการพิจารณาควบคู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของเฟอร์นิเจอร์ วัสดุที่ใช้ รวมถึงสไตล์การออกแบบตกแต่ง ลวดลายความวิจิตรบรรจงของตัวงาน เป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น  การตกแต่งสไตล์คลาสสิคเป็นงานตกแต่งที่มีราคาแพงสุดทางบริษัทมีอัตราการคิดค่าบริการอยู่ระหว่าง 30,000-80,000. บาท เป็นสไตล์ที่ใช้ความวิจิตรบรรจงละเอียดอ่อนมาก มักจะสะท้อนการใช้ชีวิตอันหรูหรามั่งคั่ง  ภายในมักจะต้องตกแต่งด้วยวัสดุล้ำค่ารูปทรงเส้นขอบต้องอ่อนช้อยชัดเจน วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นเกรดพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นงานหินอ่อน ผ้าสักหลาด วัสดุตกแต่งสีทอง เพื่อให้งานออกมาดูสูงส่งงดงาม

งานผลิตต้องใช้ความปราณีตละเอียดอ่อนและใช้เวลามากที่สุด  หรือยกตัวอย่างงานประเภทกลุ่มธุรกิจ เช่น คลินิกเสริมความงาม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงแรม ราคาจะแตกต่างจากบ้านพักอาศัยทั่วไป เพราะงานประเภทนี้จะมีรายละเอียดเนื้องานและความซับซ้อนมากกว่าทั้งการจัดการพื้นที่ใช้สอยให้เป็นประโยชน์ การวางระบบต่างๆ ที่มีความซับซ้อนกว่าบ้านพักทั่วไป การวางทางสัญจร ออกแบบฟังก์ชั่นพื้นฐานตามประเภทธุรกิจ รวมถึงการส่งทีมงานศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้หรือผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับประเภทธุรกิจของลูกค้า เพื่อดูวิเคราะห์ภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการนั้นๆ ให้เกิดการนำเสนอเด่นชัดตราตรึงใจผู้ใช้บริการและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่แท้จริง

ช่วงราคาค่าออกแบบ — กลุ่มบ้านพักอาศัย

กลุ่มบ้านพักอาศัย จะเป็นการคิดราคาตามพื้นที่จริงของการออกแบบ ช่วงราคาของการออกแบบมักจะแบ่งตามขนาดของพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่บางส่วนมักเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้าง เมื่อเทียบราคาต่อตารางมักจะมีโอกาศที่ราคาต่อพื้นที่จะถูกกว่าพื้นที่การออกแบบที่มีขนาดเล็ก

หมายเหตุ:
1. ราคาเบื้องต้นเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแบบและปัจจัยอื่นๆ
2. ฟรี ค่าออกแบบ กรณีลูกค้าทำสัญญา turn key

ช่วงราคาค่าออกแบบ — กลุ่มธุรกิจหรือร้านค้า

การออกแบบงานประเภทนี้จะมีรายละเอียดความยากของตัวเนื้องานที่ซับซ้อนมากกว่า ทั้งการจัดพื้นที่ใช้สอย การวางระบบ การออกแบบพิจารณาเส้นทางสัญจร เป็นต้น จึงทำให้งานออกแบบกลุ่มนี้จะมีราคาสูงกว่างานออกแบบบ้านพักอาศัยทั่วไป

ช่วงราคาค่ารับเหมาตกแต่งภายใน

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการตกแต่งภายในมีปัจัยหลายอย่างที่มีผลต่อราคา ทั้งในแง่ของสไตล์การออกแบบ วัสดุที่ใช้ตกแต่งตามแนวทางการออกแบบ เช่น หินอ่อน พื้นบัว การกรุผนัง กระจกแต่ง คิ้วสแตนเลส ตู้ไม้ ตู้กระจก ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุราคาอย่างแม่นยำในเบื้องต้นได้ จนกว่าจะสรุปงานออกแบบและ BOQ แต่เราพอสามารถแจ้งช่วงของการประเมิณราคาให้ลูกค้าเบื้องต้นได้ ประมาณนึงโดยพิจารณาจากการวัดพื้นที่หน้างานจริงประกอบกับแบบแปลนและสไตล์เบื้องต้นที่ลูกค้าอยากได้ ตัวอย่างช่วงราคาตามสไตล์งานออกแบบ มีดังนี้

Modern Luxury Design

modern_luxury

ค่ารับเหมาก่อสร้างตกแต่งภายในโดยประมาณ

 15,000-55,000 บาท / ตร.ม.

Modern Classic Design

modern_classic

ค่ารับเหมาก่อสร้างตกแต่งภายในโดยประมาณ

 15,000-55,000 บาท / ตร.ม.

Modern Contemporary

modern_contemporary

ค่ารับเหมาก่อสร้างตกแต่งภายในโดยประมาณ

10,000-30,000 บาท / ตร.ม.

Modern Design

modern

ค่ารับเหมาก่อสร้างตกแต่งภายในโดยประมาณ

8,000-30,000 บาท / ตร.ม.

Classic Design

classic

ค่ารับเหมาก่อสร้างตกแต่งภายในโดยประมาณ

20,000-60,000 บาท / ตร.ม.

ทั้งนี้หากลูกค้าตกลงว่าจ้างงานรับเหมาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไปทางเราจะบริการค่าออกแบบให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาประมาณการจากผลงานและประสบการณ์ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้น ราคาที่เกิดขึ้นจริงอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามเนื้องานที่เกิดขึ้นจริง

เจาะลึก BOQ ตกแต่งภายในคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ

"BOQ" ย่อมาจาก "Bill of Quantities" แปลเป็นภาษาไทยว่า ใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย มักจะออกโดยผู้ออกแบบบ้านหรือผู้รับเหมาก่อสร้าง บางครั้งเจ้าของโครงการจะใช้ BOQ เป็นเอกสารแสดงราคากลางในการก่อสร้างที่ใช้ในขั้นตอนการหาผู้รับเหมาก่อนที่จะทำการก่อสร้าง รายละเอียดด้านใน BOQ ที่ถูกต้องจะเป็นรายการที่แสดงปริมาณงานและราคาวัสดุก่อสร้างที่ถอดมาจากแบบก่อสร้างทั้งหมด ทั้งจากแบบสถาปัตยกรรม แบบวิศวกรรมโครงสร้าง และแบบวิศวกรรมงานระบบต่างๆ BOQ มักจะแยกเป็นหมวดหมู่งานอย่างละเอียด เช่น งานเตรียมพื้นที่ งานโครงสร้าง (ฐานราก คาน เสา พื้น และโครงหลังคา) งานบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานพื้น งานทาสี งานระบบไฟฟ้า งานประปาและสุขาภิบาล เป็นต้น โดยจะต้องแจกแจงเป็นรายการต่างๆ ในแต่ละหมวด พร้อมทั้งมีการระบุประเภท ขนาด ราคาของวัสดุ ปริมาณหรือพื้นที่ที่ใช้ รวมถึงค่าแรงในแต่ละรายการอย่างละเอียดชัดเจน

ความสำคัญของ BOQ

Picture1 boq

จริงๆแล้ว การใช้ BOQ ในการเสนอราคานั้นเป็นหลักปฏิบัติการสากล เป็นประโยชน์กับทั้งฝ่ายผู้ว่าจ้างและฝ่ายผู้รับจ้าง ให้การทำงานเป็นไปตามรายละเอียดที่ระบุตกลงกันอยู่ในรายการที่ใช้อ้างอิงได้

ในส่วนผู้ว่าจ้าง จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าการทำงานของผู้รับจ้างนั้นจะเป็นไปตามสเปคคุณภาพวัสดุที่เสนอรายละเอียดราคามา จะไม่สามารถบิดเบือนแอบลดต้นทุนหรือใช้วัสดุนอกเหนือจากที่ระบุไว้ไม่ได้เด็ดขาด และมีรายการกระบวนการทำงานที่ชัดเจนเพราะ BOQ จะระบุทีละรายการหมวดหมู่ ไว้อย่างชัดเจน หากผู้รับจ้างไม่ได้ทำปริมาณงานที่ตกลงกันตาม BOQ ดังกล่าวก็สามารถนำไปหักเป็นงานลดได้ แต่มองกลับกันหากไม่มีรายการอยู่ใน BOQ ก็จะเป็นงานเพิ่มเติมที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้กับผู้รับจ้างเช่นกัน แต่ควรจะอยู่บนข้อตกลงกับทั้งสองฝ่ายเพื่อความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

ในส่วนผู้รับจ้าง หรือ ผู้รับเหมา BOQ จะช่วยตีกรอบควบคุมราคาการทำงานให้ไม่เกินขอบเขต มองเห็นภาพปริมาณงานที่ต้องทำ ช่วยให้การคำนวณราคาไม่ผิดพลาดจนต้องขาดทุน เพราะบางครั้งเวลาที่ผู้รับเหมาไม่ได้คำนวณราคาไว้เช่นนี้แต่ตีราคาเหมาอย่างเดียว จะเกิดการตกหล่นผิดพลาดจนนำไปสู่การขาดทุนและเกิดภาพเหตุการณ์ทิ้งงานได้ ถือเป็นปัญหาโลกแตกที่มักเกิดกับวงการนี้

จากรูปภาพเป็นตัวอย่างการทำ BOQ โดยการวัดขนาดและพื้นที่นิยมใช้เป็น หน่วยเมตร และ ตารางเมตร เป็นหลัก  เพราะเป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้ซื้อขายวัสดุก่อสร้าง เช่น พื้นที่ผนัง วัดความ กว้าง ยาว สูง  0.1เมตร 4.33 เมตร 2.7 เมตร ได้พื้นที่ทั้งหมด 11.7 ตารางเมตร ส่วนการคิดราคา สามารถคิดค่าวัสดุรวมกับค่าแรงที่ต้องใช้ ด้วยการนำ ปริมาณวัสดุและค่าแรง x ราคาต่อหน่วย = ราคาทั้งหมดที่ต้องใช้ จะเห็นว่ามีการแยกรายละเอียดงานออกอย่างละเอียดตามแต่ละส่วน ทำให้ผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาที่ตกลงร่วมกันได้อย่างมีเอกสารยืนยัน มองเห็นปริมาณการทำงานและวัสดุที่ใช้ การที่ผู้ว่าจ้างรู้รายละเอียดของวัสดุทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพ และจำนวน ของวัสดุต่าง ๆ ระหว่างการก่อสร้างได้จากการดูรายละเอียดใน BOQ ว่าตรงกับวัสดุที่มีการตกลงกันไว้จริงหรือไม่ และยังสามารถใช้ BOQ สำหรับเป็นเอกสารอ้างอิงในการตรวจรับงานก่อนที่จะมีการส่งมอบงานที่เสร็จสมบูรณ์ได้อีกด้วย

การแยกประเภท BOQ และจัดหมวดหมู่งาน

สำหรับการตกแต่งภายในนั้น เป็นส่วนงานที่ละเอียดซับซ้อนมากที่สุดของการสร้างบ้านหรืออาคาร มักจะมีรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เป็นจำนวนมากมาย ทำให้การรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้ใน BOQ เพียงชุดเดียวอาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดได้ ดังนั้นตามมาตรฐานในการนำเสนอ BOQ ที่ดี ควรจะ นำเสนอตามประเภทของงานก่อสร้างที่แตกต่างกัน โดยบแบ่งเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน และควรจะตามลำดับการทำงานก่อนหลัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของโครงการต้องการจะทำอะไรบ้าง เช่น

  • งานผนัง คือการก่อผนัง การฉาบผนัง งานติดตั้งวอลเปเปอร์ ลามิเนต
  • งานฝ้าเพดาน คือการติดตั้งฝ้าเพดาน
  • งานไฟฟ้าแสงสว่าง คืองานเดินระบบไฟฟ้าทั้งหมด รวมไปถึงการติดตั้งหลอดไฟต่างๆ
  • งานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน คืองานประกอบ ตู้ โต๊ะ เตียง เป็นต้น
  • งานสุขภัณฑ์ คืองานติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้น้ำ อุปกรณ์ในห้องน้ำ
  • งานสี คืองานทาสีภายนอก ภายใน

สำหรับบริษัท 168 ทูบีดีไซน์ เราจะมีการเสนอราคาโดยยึดตามงาน 3D perspective ที่ได้ออกแบบให้ลูกค้าและจะอ้างอิงนำเสนอผ่านงานดีไซน์ เพื่อให้ผู้อ่านจินตนาการได้ง่าย เรามีรายละเอียดตัวอย่าง ดังนี้

ตัวอย่าง walk-in closet
ตัวอย่างห้องครัว
ตัวอย่างห้องนั่งเล่น
ตัวอย่างห้องนอน

เปรียบเทียบการเสนอราคา

ผูัรับเหมาA เสนอราคาตีเหมางานฝ้าเพดานทั้งหมด 120,000 บาท

ผู้รับเหมาB เสนอราคาฝ้าเพดานที่  20 ตารางเมตร พร้อมทาสี  90 ราคาบาทต่อตารางเมตร รวมราคาที่ 110,000 บาท

ผู้รับเหมา 168 ทูบีดีไซน์ เสนอราคาเป็น BOQ โดยแจงออกเป็นข้อๆ ดังภาพ

Picture1เเก้

จะสังเกตได้ว่า

ผู้รับเหมา เสนอราคาหยาบและคลุมเครือ ไม่รู้ว่ารายละเอียดทำงานอะไรบ้าง ใช้วัสดุอะไร ขั้นตอนทำงานมีอะไร ไม่มีการแจกแจงให้ชัดเจน การเสนอราคาเช่นนี้ จะมีปัญหาถกเถียงกันถึงคุณภาพงานและวัสดุที่ใช้ได้ในอนาคต

ผู้รับเหมา B เสนอราคาต่ำสุดและคาดหวังจะได้งาน แต่เสนอราคามาแบบไม่มีมาตรฐาน ไม่รู้ว่าต้องทำงานอย่างไรให้งานออกมาดีและขั้นตอนต้องเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงสูงที่จะมีการตกหล่นจากการเสนอราคา รวมถึงคลุมเครือกับยี่ห้อวัสดุที่เลือกใช้ และเกรดของวัสดุนั้น ทำให้มีปัญหาภายหลัง

สำหรับ 168 ทูบีดีไซน์  เราจะทำการเสนอราคาที่ชัดเจนและถูกต้องที่สุด เมื่อเสนอราคาแล้วอาจดูว่าราคาของทางเรา แพงกว่า A และ B แต่ราคาของทางเรานั้นอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้องและมีคุณภาพงานที่ดี ลูกค้าจะได้รับการส่งงานที่แน่นอน โปร่งใส ตรงไปตรงมา

จะเห็นว่า ผู้รับเหมา A และ B เป็นกลุ่มที่ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการก่อสร้างนั้นเสียหาย ทำให้เกิดการทิ้งงาน คุณภาพงานแย่ เกิดปัญหาความเสียหายกันเป็นจำนวนมากที่มักมาจากกลุ่มเหล่านี้ โดยผู้อ่านเองในฐานะผู้ว่าจ้างหากมีความรู้เพียงพอก็จะเข้าใจงานเป็นอย่างดี และสามารถตัดสินเลือกผู้รับเหมามืออาชีพมาทำงานให้แก่ท่านได้  อย่าเสี่ยงตัดสินใจจากคำว่า”ถูกกว่า”

จะเห็นได้ว่าการทำ BOQ มีความสำคัญอย่างยิ่งมากกว่าการทำใบเสนอราคาทั่วๆไป มีข้อดีอยู่ในหลายมิติด้านที่ครอบคลุม ซึ่งเหมาะแก่การเสนอราคางานตกแต่งภายในได้อย่างดี

168 ทูบีดีไซน์ เราเป็นมากกว่าบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน นอกเหนือจากการงานดีไซน์และรับเหมาตกแต่งที่ส่งมอบให้ลูกค้าแล้ว เรายังให้ความรู้และความโปร่งใสการทำงานรวมถึงขั้นตอนรายละเอียดการก่อสร้างแก่ลูกค้าควบคู่ไปด้วย เราใช้มาตราฐานทางวิศวกรรมในทุกๆ งาน เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงขึ้นตอนงานที่ถูกต้อง เราให้สำคัญต่อความรู้สึก ความเชื่อมั่นของลูกค้า เพื่อสัมผัสประสบการณ์มาตรฐานที่ดีในการทำงาน จนนำไปสู่การส่งมอบผลงานที่ดีมีคุณภาพ ส่งต่อความสุขแห่งการอยู่อาศัยที่แท้จริง

Scroll to Top